ชี้เทรนด์สื่อนอกบ้านครึ่งปีหลังโต เหตุแบรนด์สินค้าสนใจ สื่อหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้ลงตัว เผย TSF คว้าลูกค้ารายใหญ่จากเมกอัพดัง ทุ่มงบกว่า 20 ล้านปูพรมโฆษณารอบด้าน
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด(มหาชน) หรือ TSF เปิดเผยว่า สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out Of Home) มีแนวโน้มที่จะเติบโตและเป็นที่นิยมของนักการตลาดมากขึ้น เนื่องจากเป็นสื่อที่มีความหลากหลายและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทำให้เชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะมีสินค้าและบริการหันมาเลือกใช้การสื่อสารการตลาดผ่านป้ายโฆษณานอกบ้านอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสื่อที่มีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านเพิ่มขึ้น
วิโรจน์ วชิรเดชกุล
สำหรับภาพรวมของทีเอสเอฟเองนั้น บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาสื่อป้ายโฆษณาประเภทต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเน้นป้ายโฆษณาที่อยู่ในทำเลที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น สื่อโฆษณา DTC(Direct to Customer) ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งได้ติดตั้งป้ายดังกล่าวไปแล้วจำนวนกว่า 1,900 ป้ายทั่วประเทศ รวมทั้งสื่อโฆษณาในสนามบิน 4 แห่ง คือ สนามบินดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย และสนามบินภูเก็ต ซึ่งมีป้ายโฆษณาจำนวน 98 จุด รวมกว่า 102 จอ และล่าสุดมีป้ายโฆษณาในสถานีบริการนํ้ามัน ปตท. จำนวน 300 สถานีทั่วประเทศ จำนวน 1,800 ป้าย โดยแบ่งเป็นป้าย MUPI ปั๊มละ 4 ป้ายจำนวน 1,200 ป้าย และป้าย Mini Billboard ปั๊มละ 2 ป้ายจำนวน 600 ป้าย
นอกจากนี้ยังมีป้ายโฆษณา MUPI ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,800 จุด เพื่อรองรับความต้องการของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่หันมาสนใจสื่อนอกบ้านมากขึ้น เห็นได้จากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการต่างๆ เข้ามาติดต่อจองป้ายโฆษณาในทำเลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเครื่องสำอางแบรนด์ MERREZCA ใช้เม็ดเงินกว่า 20 ล้านบาทในการโฆษณาผ่านป้ายโฆษณาต่างๆ
อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท เอสโอโอ มีเดีย จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานบริหารสื่อโฆษณาในสถานีบริการนํ้ามัน ปตท. จำนวน 300 สถานีทั่วประเทศ เพื่อเข้าไปบริหารสื่อโฆษณาใหม่ ส่งผลให้ TSF มีสื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 1,800 ป้าย และมีพื้นที่ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยแบ่งเป็นป้าย MUPI ปั๊มละ 4 ป้ายจำนวน 1,200 ป้าย และป้าย Mini Billboard ปั๊มละ 2 ป้ายจำนวน 600 ป้าย โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คาดว่าจะสนใจได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค รองลงมาคือ กลุ่มยานยนต์ ธุรกิจประกันภัย การสื่อสาร ธนาคาร และกลุ่มราชการ เป็นต้น ทั้งนี้หากขายป้ายได้ทั้งหมดจะมีมูลค่า 497 ล้านบาทต่อปี
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thansettakij.com