เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แทบทุกธุรกิจ จะพยายามพัฒนาช่องทางดังกล่าว เพื่อสื่อสาร ทำตลาด หรือสร้างการรับรู้ในแบรนด์ ภายใต้เป้าหมายในการตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค
แต่สิ่งสำคัญก็คือ ไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะใช้ช่องทางออนไลน์อย่างหนักหน่วง หรือเบาๆ สบายๆ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ก็ไม่ควรลืมใส่ใจรูปแบบการนำเสนอ ซึ่งมีความสำคัญพอๆ กับคอนเทนต์ประสิทธิภาพที่ต้องการส่งไปยังลูกค้ายุค 4.0 ของคุณด้วย เพราะอะไรน่ะเหรอ…?
เพราะยุคนี้ผู้บริโภคเสพสื่อออนไลน์เป็นหลักไง และนอกจากช่องทาง Social ที่มีหน้าตาแบบเดียวกันเป็นพื้นฐาน ให้คุณใช้สร้างตัวตนไปสื่อสารกับผู้บริโภคแล้ว “Website” ก็ถือเป็นหน้าต่างสำคัญอีกบาน ที่จะช่วยพิสูจน์ว่า…คุณสามารถดึงดูดให้ผู้มาเยือนพึงพอใจกับสิ่งที่คุณนำเสนอผ่านหน้าต่างบานสำคัญนั้น และใช้เวลาอยู่กับคุณได้นานแค่ไหน
ถ้าคุณยังคิดว่า Web ไม่ใช่สิ่งที่แบรนด์ต้องลงทุนหรือให้ความสำคัญเทียบเท่าช่องทาง Social อื่นๆ เราขอให้ดูตัวอย่างจากบรรดา Website เหล่านี้ซึ่งเป็น Web ยอดนิยมของคนทั่วโลก ว่าพวกเขาให้ความสำคัญและพัฒนาหน้าตาของ Website ไปมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในยุคนี้อย่างไร!
Google : จากหน้าตา Website ในปี 1998 จนถึงปัจจุบัน
Wikipedia : จากหน้าตา Website ในปี 2001 จนถึงปัจจุบัน
eBay : จากหน้าตา Website ในปี 1995 จนถึงปัจจุบัน
Facebook : จากหน้าตา Website ในปี 2004 จนถึงปัจจุบัน
Youtube : จากหน้าตา Website ในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน
Twitter : จากหน้าตา Website ในปี 2006 จนถึงปัจจุบัน
Yahoo : จากหน้าตา Website ในปี 1994 จนถึงปัจจุบัน
Amazon : จากหน้าตา Website ในปี 1995 จนถึงปัจจุบัน
Instagram : จากหน้าตา Website ในปี 2011 จนถึงปัจจุบัน
Pinterest : จากหน้าตา Website ในปี 2010 จนถึงปัจจุบัน
เห็นอะไรหรือเปล่า? ไม่ว่าคุณจะขายคอนเทนต์หรือขายสินค้า หน้าตาของ Website ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมองข้ามไปได้ ต้องหมั่นพัฒนาให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้งาน และความชื่นชอบของผู้บริโภคอยู่เสมอ ล้าหลังกว่าคู่แข่งก็ไม่ได้ ล้ำสมัยเกินไปไม่ตอบโจทย์ลูกค้าก็ไม่ดี หาจุดกึ่งกลางเพื่อทำให้คุณสามารถตรงเข้าสู่ใจลูกค้าได้สิ ถึงจะดี!.
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : marketingoops.com