ด้วยเวลา 10 ชั่วโมงที่ผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นโอกาสสำคัญสำหรับสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจสื่อนอกบ้านทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนไป รับสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้น แย่งชิงความสนใจจากผู้บริโภคบนท้องถนนไป ทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสื่อนอกบ้านเคลื่อนไหวและปรับตัวต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ให้แก่ธุรกิจ
“แพลน บี มีเดีย” ผู้เล่นรายหลักของธุรกิจสื่อนอกบ้านที่ขยับตัวมาเป็นสเต็ป ๆ จนปัจจุบันก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณากลางแจ้ง สื่อโฆษณาดิจิทัล สื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน สื่อภายในห้างสรรพสินค้า สื่อในสนามบิน รวมถึงการเข้าบริหารจัดการสิทธิจากสมาคมฟุตบอลฯ
”ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์“ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจ ว่า ภาพรวมสื่อนอกบ้านปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น และมีโอกาสขยายตัวอีกมากในอนาคต เพราะสื่อนอกบ้านยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ประกอบกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านเพิ่มขึ้น หรือเฉลี่ย 10 ชั่วโมงต่อวัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯที่ใช้เวลาการเดินทางมากถึง 2 ชั่วโมงต่อวันจากจราจรที่ติดขัด
ล้วนเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตให้แก่สื่อนอกบ้าน เพราะเวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น คนก็มีโอกาสเห็นสื่อนอกบ้านเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีแรกที่ชะลอการเติบโตลง กระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภค ทำให้สินค้าลดการใช้งบฯผ่านสื่อโฆษณาลง ทำให้ภาพรวมการใช้งบฯโฆษณาผ่านสื่อโดยรวมเติบโตลดลงตามไปด้วย ดังนั้น เป้าหมายหลักของธุรกิจปีนี้ คือ รักษาการเติบโตให้แก่ธุรกิจ
ปรินทร์ บอกว่า แม้การใช้งบฯผ่านสื่ออื่น ๆ จะไม่เติบโต แต่สื่อนอกบ้านถือว่ายังมีโอกาสโต เพราะสินค้าลดการใช้เม็ดเงินโฆษณากับสื่อหลักลง และมีแนวโน้มจะหันมาเม็ดเงินกับสื่อนอกบ้านมากขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนการใช้งบฯโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้านแบ่งเป็น กรุงเทพฯอยู่ที่ 70% ต่างจังหวัด 30% คาดว่าอนาคตสัดส่วนการใช้สื่อนอกบ้านทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดจะเปลี่ยนเป็น 50% เท่ากัน จากการใช้งบฯประมาณของภาครัฐที่กระจายไปตามหัวเมืองใหญ่มากขึ้น
”แม้ภาพรวมการใช้งบฯผ่านสื่อโฆษณาจะไม่เติบโต แต่สื่อนอกบ้านของบริษัทยังคงเติบโต โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมามีรายได้ 692.3 ล้านบาท โต 24.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการพัฒนาสื่อโฆษณาใหม่ ๆ และเพิ่มธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งขึ้นมา”
ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังนั้น ปรินทร์ บอกว่า ยังคงดำเนินตามแผนเดิมที่วางไว้ จะโฟกัสไปที่การขยายสื่อโฆษณาในต่างจังหวัดและต่างประเทศ
เริ่มตั้งแต่การขยายธุรกิจในประเทศ สำหรับสื่อโฆษณาดิจิทัลในกรุงเทพฯนั้น จะเพิ่มพื้นที่สื่อในกรุงเทพฯตามยุทธศาสตร์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ต่อไป พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายโฆษณาดิจิทัล หรือแพลนบี ทีวี เนชั่นไวด์ (Plan B TV Nationwide) เป็น 63 จอใน 45 จังหวัดทั่วประเทศ และจะขยายจอแอลอีดีในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 100 จอภายในสิ้นปีนี้
ตามด้วยสื่อภายในสนามบิน ปัจจุบันมี 31 แห่ง ก็มีแผนจะเพิ่มพื้นที่สื่อโฆษณาในสนามบินต่อเนื่อง และเตรียมจะต่อยอดธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้น หลังจากได้เป็นตัวแทนในการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทย ลีก จำกัด ในปี 2560-2563 แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น การนำคอนเทนต์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เจาะเข้าไปถึงผู้บริโภคกลุ่มต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการจัดอีเวนต์ สื่อทีวี สื่อออนไลน์ หวังสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจนี้
ปรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้กระแสฟุตบอลไทยค่อนข้างดี ได้รับความสนใจจากผู้ชมไทย ซึ่งการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพค่อนข้างประสบความสำเร็จ จากนี้จะเป็นการแข่งขันรายการใหม่ ๆ ที่เป็นรายการเยาวชนมากขึ้น บริษัทก็สามารถต่อยอดธุรกิจจากสิทธิที่ได้เพิ่มขึ้น
สำหรับการขยายธุรกิจต่างประเทศจะโฟกัสที่ตลาดอาเซียนเป็นหลัก มีแผนจะขยายธุรกิจสื่อนอกบ้านร่วมกับพันธมิตรในประเทศต่าง ๆ ทั่วอาเซียน เพื่อเจาะเข้าถึงผู้บริโภคทั่วภูมิภาคนี้ เบื้องต้นนั้นอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นของแต่ละประเทศในอาเซียน หรือผู้ประกอบการระดับอินเตอร์เนชั่นนอล คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมามีดีลในลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์บ้างแล้ว
ที่ผ่านมาบริษัทลงทุนและพัฒนาสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ ๆ อยู่ตลอด หากย้อนกลับไปจะเห็นว่า กลยุทธ์ของบริษัทไม่เคยเปลี่ยน และไม่เคยหยุดลงทุนแม้ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ปัจจุบันกำลังการผลิตสื่ออยู่ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60-70% และยังสามารถสร้างให้เติบโตได้อีกตามดีมานด์ของตลาด
ทั้งหมดถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ที่ทำให้ แพลน บี เติบโตอย่างแข็งแรงในตลาดสื่อนอกบ้านทั้งในและต่างประเทศ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : prachachat.net