Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

หมดยุคปลาใหญ่-ปลาไว ยุคนี้ต้องเป็นปลาที่ใช่ 5 เรื่องที่ต้องทำ หากอยากชนะในเกมการตลาดยุคใหม่

หมดยุคปลาใหญ่-ปลาไว ยุคนี้ต้องเป็นปลาที่ใช่ 5 เรื่องที่ต้องทำ หากอยากชนะในเกมการตลาดยุคใหม่
November 25, 2018 dhammarong

แบรนด์จะรับมืออย่างไร ในยุคที่ผู้บริโภคคาดเดาได้ยาก การต้องเผชิญกับเทคโนโลยีใหม่ทุกรูปแบบ

มาอัพเดทกับเทรนด์การตลาดในอนาคต ภายในงาน ”Marketing Day 2018” จัดขึ้นโดย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ที่บอกชัดเจนว่า เป็นยุคของทำธุรกิจ เจ้าของกิจการ ต้องสวมหัวใจนักการตลาด หรือ Marketpreneurship

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มองว่า  ภาพรวมธุรกิจปีนี้และปีหน้ายังเห็นโอกาสเติบโต เนื่องจากจะมีการเลือกตั้ง สินค้าอุปโภค บริโภคจะขายดี  แต่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักการตลาด จะต้องมีการปรับตัวเพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลง

เทรนด์การตลาดใน 1-2 ปีที่จะมาถึง จะเริ่มเปลี่ยนจาก Globalization เป็น Localization มากขึ้นเป็นการเติบโตจากภายในสู่ภายนอกเพราะโอกาสทางธุรกิจภายในประเทศนั้นจะมีมากขึ้นและจะมีโอกาสเติบโตมากขึ้น

แต่การจะคว้าโอกาสได้นั้น  องค์กรต้องมีการปรับตัว  เจ้าของกิจการและนักการตลาดจะพึ่งพายอดขายผ่านการสร้างแบรนด์ด้วยโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเดียวนั้นไม่พออีกต่อไป

วิธีคิด วิธีปฎิบัติของคนในองค์กรก็ต้องเปลี่ยน ผู้ประกอบการรายย่อยที่ถนัดด้านการผลิต ก็จะต้องมีหัวใจนักการตลาด วางยุทธศาสตร์มากขึ้น ส่วนองค์กรใหญ่ ก็ต้องปรับตัวให้มีความฉับไวและยืดหยุ่นแบบผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจยุค Marketpreneurship ต้องก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ รวมถึงนำเทรนด์เทคโนโลยีที่มีประโยชน์มาให้เสริมประสิทธิภาพ

ในปี 2562 นี้ เทคโนโลยีที่น่าจับตามองคือ เรื่องของ Connected Cloud, Chatbots, Data Analytic และการนำ data ไปใช้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น  IoT, AI, Machine Learning และ Edge Computing สิ่งเหล่านี้จะมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในโลกยุคใหม่ และธุรกิจที่เปิดรับและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพทั้งการผลิตและการตลาด ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าบริษัทที่ยังไม่ทำ

ผู้ชนะในน่านน้ำของการแข่งขันในยุคใหม่ ไม่ได้วัดกันที่การเป็น ปลาใหญ่ หรือ ปลาไว แต่ต้องเป็น “ปลาที่ใช่ หรือ The Right Fish” ซึ่ง หัวใจแห่งความสำเร็จ นั้นประกอบด้วย “5 ใช่” คือ Right People – Right Product – Right Purpose – Right Approach และ Right Time

Right People – คนที่ใช่

หมดยุค mass marketing หรือ one size fit all กำลังถูกทดแทนด้วย personalized marketing  หรือการตลาดระดับบุคคล กลุ่มผู้บริโภคมีการแบ่งย่อยเป็นอย่างมาก แบรนด์ต้องมีความชัดเจนว่าสินค้าและบริการนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใคร

การตั้งโจทย์ที่ถูกต้องต้องเริ่มตั้งแต่การตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อตอบความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างตรงจุด

Right Product – สินค้าดีแล้วต้องโดน

การพัฒนาสินค้าและบริการไม่ได้มาจากความเชี่ยวชาญขององค์กรเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมาจากความต้องการของลูกค้าในสมัยนี้ไม่ใช่ว่าแค่ผลิตสินค้าดีมีคุณภาพแล้วคนจะหลั่งไหลมาซื้อ

แต่นอกจากดีแล้วยังต้องโดนอีกด้วย คือ สินค้าที่ใช่นั้น ต้องโดนใจและตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาในชีวิตของลูกค้า ดังนั้น แบรนด์จึงต้องใกล้ชิดกับผู้บริโภคให้มากขึ้น และทำความเข้าใจกับความต้องการของพวกเขาให้ได้อย่างถ่องแท้

Right Purpose – วัตถุประสงค์ที่ใช่

เราอยู่ในยุคของ Shared Purpose เป็นเรื่องสำคัญเพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายความชอบและการเลือกซื้อเป็นระดับบุคคลมากขึ้นผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่เป็นเหมือนเพื่อนของเขาคิดอะไรเหมือนกันมีความเชื่อและมีจุดหมายในชีวิตที่เหมือนกัน

ดังนั้น แบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าแค่การขายสินค้าและบริการ จึงมักเป็นแบรนด์ที่ถูกเลือก โดยแบรนด์เหล่านี้ต้องพิสูจน์ความตั้งใจดีด้วยการกระทำ ดังนั้นเรื่องของความรับผิดชอบทางสังคม หรือ CSR จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมชั่วคราว แต่ถูกฝังลงไปในขั้นตอนและแนวคิดของสินค้าด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจในการ เลือกซื้อ เลือกแนะนำของลูกค้าเป็นอย่างมาก

Right Approach & Right Time ถูกวิธี ถูกที่ และ ถูกเวลา

ในยุคที่ผู้บริโภคเป็นใหญ่ แบรนด์ต้องสร้างความเข้าใจใน customer journey และเข้าให้ถึงผู้บริโภคให้ ถูกวิธี ถูกที่ และ ถูกเวลา โดยไม่มีเส้นกั้นระหว่าง online และ offline อีกต่อไปทั้งการสื่อสารช่องทางการขายและการเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้าทุกอย่างต้องถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน

เจ้าของกิจการและนักการตลาดต้องมองภาพใหญ่ให้ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียวรวมถึงการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากช่องทางต่างๆจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ.

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : positioningmag.com