แม้หลายคนยังไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของปีนี้ว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับวงการโฆษณาแล้ว มายด์แชร์เชื่อว่า ในปีนี้อุตสาหกรรมโฆษณาจะเติบโต 4.8% ซึ่งการเติบโตนี้มาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นโยบายของรัฐบาล การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ปัทมวรรณ สถาพร กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ ได้บอกกับเราว่า ในปีนี้สื่อโฆษณาที่เติบโตอย่างน่าสนใจยังมาจาก 3 สื่อหลัก ได้แก่ ทีวีดิจิทัล อินเทอร์เน็ต และสื่อนอกบ้าน ซึ่งเป็น 3 สื่อหลักที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้ สื่อดิจิทัล ถือเป็นสื่อที่มีการเติบโตสูงสุด ด้วยการเติบโตถึง 20.5% ด้วยมูลค่า 18,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 14.5% ของสื่อโฆษณาทั้งหมด
และมายด์แชร์คาดการณ์ว่าในระยะเวลาอย่างน้อยอีก 3 ปี สื่อดิจิทัลอาจจะไต่บันไดขึ้นมาอยู่ในสัดส่วน 40% ใกล้เคียงกับสื่อทีวีรวมที่ค่อยๆ ลดสัดส่วนลงไป โดยในปัจจุบันสื่อทีวีรวมมีสัดส่วน 58.7%
แต่การเติบโตของสื่อดิจิทัลไปให้ถึงเป้าหมายสัดส่วน 40% ใน 3 ปีได้นั้น อาจจะต้องมีแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างสีสันและดึงความสนใจผู้บริโภคมากกว่าที่เห็นในปัจจุบัน
รวมถึงการผลักดันของภาครัฐบาลสู่ไทยแลนด์ 4.0 และทิศทางการให้บริการ 5G รวมถึงการกำหนดราคาค่าบริการ 5G ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการได้มากน้อยเพียงใด เพราะในวันนี้อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนต่างจังหวัดยังคงเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่เมื่อเทียบกับคนกรุงเทพฯ ทำให้การใช้เม็ดเงินดิจิทัลจึงไม่สามารถลงลึกไปถึงกลุ่มคนต่างจังหวัดได้ในวงกว้าง
สื่อทีวีดิจิทัล ยังคงทำหน้าที่ได้ดีในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างเพื่อสร้าง Awareness ในการสื่อสาร
แม้สัดส่วนของสื่อทีวีรวมจะลดลงจาก 59.1% ในปี 2018 เหลือ 58.7% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมรวม แต่ไม่ได้ทำให้สื่อทีวีดิจิทัลทรงพลังน้อยลง เพราะในวันนี้สื่อดิจิทัลมีสัดส่วนในตลาดโฆษณารวมถึง 27% เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ที่มีเพียง 24.8%
และการเติบโตของสัดส่วนนี้ยังมาพร้อมกับรายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 14.2% จาก 29,325.7 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
การเติบโตนี้มาจากทีวีดิจิทัลในปีนี้ มาจากสื่อทีวีดิจิทัลบางช่องเริ่มมีการปรับราคาเรตการ์ดโฆษณาขึ้น ซึ่งการปรับนี้มาจากการเติบโตของเรตติ้งของผู้ชมที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี
และสุดท้ายคือสื่อนอกบ้าน ในปีนี้ยังคงเติบโต 9.8% ในสื่อเอาต์ดอร์และเติบโต 5.2% ในสื่อทรานซิท โดยการเติบโตนี้ส่วนหนึ่งมาจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มมูลค่าให้กับป้ายบิลบอร์ดที่มาพร้อมลูกเล่นในการสื่อสารผ่านป้ายโฆษณาในรูปแบบใหม่ๆ และจากป้ายเลือกตั้งที่คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีการจัดการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
Marketeer FYI
ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโฆษณาเติบโต 5.7% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ 7% ในต้นปี 2018
การที่เม็ดเงินโฆษณาเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้มาจากการที่แบรนด์เริ่มกลับมาใช้เงินโฆษณาอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งถือว่าช้ากว่าในช่วงเวลาปกติที่แบรนด์ส่วนใหญ่จะเริ่มใช้เม็ดเงินโฆษณาในเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม และยาวไปจนถึงสิ้นปี
แต่การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาในปี 2018 ก็มีนัยสำคัญมาจากการออกจากช่วงเวลาการไว้อาลัย และนักโฆษณาเริ่มสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยแคมเปญการเฉลิมฉลองในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น และยังรวมถึงการประกาศที่จะมีการเลือกตั้งที่รัฐบาลได้ประกาศในช่วงสิ้นปี
เมื่อมองไปที่สื่อ ในปี 2018 มีสื่อที่เติบโตอย่างน่าสนใจ คือสื่อดิจิทัล ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บริโภค และทีวีดิจิทัล
ในส่วนของทีวีดิจิทัล ในปีที่ผ่านมามีเรตติ้งผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อนาล็อกทีวีอย่าง 3 5 7 และ 9 มีการลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
แม้ว่าช่อง 7HD และช่อง 3HD ยังคงเป็นช่องที่เป็นผู้นำด้านเรตติ้งรวม แต่ก็มีช่องอื่นๆ ที่เริ่มมีเรตติ้งไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างเช่น เวิร์คพอยต์ แต่ส่วนใหญ่แล้วเรตติ้งของช่องจะมาจากคอนเทนต์ที่นำเสนอเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย
ในส่วนละคร ในปีที่ผ่านมายังเป็นตัวดึงเรตติ้งได้ดี อย่างเช่น เรื่องเมีย 2018 เลือดข้นคนจาง และบุพเพสันนิวาส
เหตุการณ์หมูป่า ที่ผลักดันให้ช่องข่าวไทยรัฐทีวีที่นำเสนอข่าวแตกต่างและติดตามตลอด 24 ชม. มีเรตติ้งเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลานั้น
รวมถึงเกมโชว์ต่างๆ ก็ยังคงดึงเรตติ้งผู้ชมได้ดีเช่นกัน
นอกจากนี้บริษัทที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดก็ยังคงเป็นบริษัทเดิมๆ ที่อยู่ในกลุ่ม FMCG โทรคมนาคม และรถ (นับจากโฆษณาที่ออนแอร์มาคำนวณกับเรตการ์ดที่หักส่วนลดปกติในแต่ละช่อง)
โดยแบรนด์ TV Direct เป็นแบรนด์ที่มาแรงจากการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
และยังมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่างเช่น เกมมิ่งและช้อปออนไลน์ ที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาอย่างน่าสนใจ แต่เป็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่ใช้เป็นช่วงๆ เช่น โปรโมตแคมเปญ 11.11 หรือการโปรโมตเกมเฉพาะช่วงเวลา ทำให้อัตราการใช้เม็ดเงินโฆษณารวมจึงยังไม่เท่า FMCG และอื่นๆ ที่มีการใช้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ การเติบโตของมูลค่าโฆษณาถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะบอกว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับมา พร้อมกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : marketeeronline.co