สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ธุรกิจป้ายโฆษณาจะมีเม็ดเงินสะพัดสูง 40,000-50,000 ล้านบาท
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีเงินสะพัดเกี่ยวกับการโฆษณา, ประชาสัมพันธ์ และการพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ราว 40,000-50,000 ล้านบาท สูงกว่าการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้วประมาณ 25-30% แม้ว่าลักษณะของการหาเสียงจะเปลี่ยนไปจากอดีต โดยส่วนใหญ่อาจหันไปใช้สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อดิจิทัลมากขึ้น จนทำให้ยอดสั่งผลิตสิ่งพิมพ์ เช่น โบรชัวร์, ใบปลิว จะลดลง แต่เชื่อว่าสิ่งพิมพ์ในกลุ่มโปสเตอร์และป้ายโฆษณา หรือบิลบอร์ดขนาดใหญ่ จะมียอดสั่งทำเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ มีจำนวนพรรคการเมืองรายย่อยใหม่ ๆ จำนวนมาก ทุก ๆ พรรค จึงต้องการนำเสนอพรรคของตัวเองให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชน ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการยังคงติดตามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กำหนด เช่น ขนาดของแผ่นป้ายหาเสียง และพื้นที่ที่อนุญาตให้ติดป้ายหาเสียง ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อคำสั่งซื้ออย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับ นายจักรกฤษณ์ เข็มทอง นายกสมาคมป้ายและโฆษณา เปิดเผยว่า ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ถือเป็นช่วงนาทีทองของธุรกิจป้ายและโฆษณา ซึ่งแม้รูปแบบการหาเสียงจะเน้นไปให้น้ำหนักที่การใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น แต่ป้ายนำเสนอพรรคการเมืองที่ติดตามตรอกซอกซอย ก็ยังมีความจำเป็น เพราะเป็นจุดสังเกตได้ง่าย และสามารถสร้างการจดจำจากประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าภาพรวมของธุรกิจป้ายและโฆษณาในปีนี้ จะเติบโตกว่าปีก่อนประมาณ 5-7%
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : news.ch7.com