AQUA เปิดแผน ปี 63 ลุยปั๊มรายได้เต็มสูบ

ขณะที่ การลงทุนในโรงไฟฟ้าผ่านบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) ยังมีการรับรู้รายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าอยู่ที่ 30% ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านอยู่ที่ 40% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 30% โดยในอนาคตสัดส่วนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าจะมากขึ้น คาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ส่วนธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านอยู่ที่ 35% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 25% เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นการรับรู้รายได้แบบประจำอยู่แล้ว

อารักษ์ ราษฎร์บริหาร

 

อย่างไรก็ตาม มองว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณายังคงมีการแข่งขันในระดับสูง แต่มองว่าสื่อโฆษณาแบบป้ายยังคงเป็นทางเลือกของลูกค้า เพราะอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ที่สภาพการจราจรในปัจจุบันค่อนข้างติดขัด จากผู้บริโภคยังใช้รถใช้ถนน

ทั้งนี้ หากในอนาคตพฤติกรรมการบริโภคสื่อเปลี่ยนไปจากเดิม บริษัทก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย

“ปัจจุบัน AQUA มีส่วนแบ่งการตลาดสื่อโฆษณานอกบ้านอยู่อันดับ 3 ตอนนี้คู่แข่งยังมีไม่มาก แต่หากคู่แข่งมีมากขึ้น ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จะใช้แบบเดิมไม่ได้ ซึ่งหลักการบริหารงานให้ธุรกิจมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง คือการบริหารต้นทุนและบุคลากร โดยจะลดความสิ้นเปลือง ความสูญเสีย และการให้ความสำคัญกับลูกค้า เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น”

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวม 85.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5 ล้านบาท หรือ 17.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 72.53 ล้านบาท ส่วนรายได้ในธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาแบบ LED อยู่ที่ 93.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.01 ล้านบาท หรือ 13.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนป้ายนิ่งมีรายได้อยู่ที่ 96.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.80 ล้านบาท หรือ 7.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน EPCO ได้รับกำไรปันส่วนจากการเข้าลงทุนจำนวน 23.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.36 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินงานรวม 287.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.93 ล้านบาท หรือ 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 งวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านในส่วนของจอ LED เติบโต 47% ป้ายนิ่งเติบโต 3.15% และส่วนแบ่งกำไรจาก EPCO เพิ่มขึ้น 26.18%

สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น บริษัทกำลังพิจารณาแผนการซื้อหุ้นคืนว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมหรือไม่ โดยจะมีการตัดสินใจอีกครั้งผ่านการประชุมคณะกรรมการบริหารในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า เนื่องจากมองว่าจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ถึงแม้บริษัทจะต้องเสียกระแสเงินสดไปส่วนหนึ่งก็ตาม แต่หากผลประกอบการยังทำได้ดีอย่างที่ผ่านมา เชื่อว่าราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ และจะเป็นประโยชน์กับบริษัทในอนาคต