ทันหุ้น- สู้โควิด- PLANB คาดรับอานิสงส์รัฐลดระดับคลายล็อกดาวน์ ศูนย์การค้ากลับมาเปิดบริการได้ เอื้อผู้ประกอบการเดินหน้าอัดงบโปรโมทโฆษณา ดันผลงานครึ่งหลังปี 2563 เด่น แถมอวดสัญญาใหม่คว้าสิทธิ์ป้ายประชาสัมพันธ์ สร้างรายได้ปีนี้ราว 90 ล้านบาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยว่าจากการที่ภาครัฐได้ทยอยลดระดับผ่อนปรนการล็อกดาวน์เมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวัรสโควิด-19 เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีการฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 รวมถึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าบางรายที่เลื่อนกำหนดสัญญาได้เริ่มกลับมาลงทุนในสื่อโฆษณานอกที่พักอาศัย (Out Of Home : OOH) เข้ามาเพิ่มขึ้น
ชี้ครึ่งหลังปีเด่น
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าผลการดำเนินงานและอัตราการใช้พื้นที่สื่อจะรีบาวด์ในช่วงไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2563 มองว่าอาจทรงตัวเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 มีผลเพียงช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 ขณะที่ผลการดำเนินงาานในช่วงไตรมาส 2/2563 มองว่าอาจปรับตัวลดลงเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
และมองว่าคู่ค้าอย่างธุรกิจค้าปลีก ศูนย์การค้า (Retail) และท่าอากาศยาน (Air port) จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้หลักที่มาจากธุรกิจการให้บริการพื้นที่สื่อโฆษณา OOH อยู่ที่กว่า 70% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจสื่อทางการตลาดแบบมีส่วนร่วม Engagement ประมาณ 30% เป็นต้น อย่างไรก็ดี ธุรกิจ Engagement ทั้ง Sports Marketing, Music Marketing และ E-Sport ถูกเลื่อนการจัดงานแสดงออกไปเป็นในช่วงคลังหลังปี 2563
พร้อมกันนี้ สิทธิในการบริหารสื่อโฆษณาในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จำนวน 1,000 – 1,500 สาขา อาจต้องถูกเลื่อนกำหนดการติดตั้งไปในช่วงครึ่งหลังปีแทน เนื่องจากการเคอร์ฟิวทำให้ระยะเวลาในการติดตั้งมีจำกัด ซึ่งจากปัจจัยข้างต้นส่งผลให้บริษัทเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2563 จะมีการเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งแรกปี สำหรับภาพรวมรวมผลการดำเนินงานในปี 2563เบื้องต้นมองว่าอาจต้องรอให้ผลประกอบการในช่วง 6เดือนแรกของปีออกเสียก่อนจึงจะประเมินได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิ-19 นั้นมีความไม่แน่นอนสูง
งานใหม่เสริมแกร่ง
นอกจากนี้ จากการลงทุนในการสร้างป้ายรถโดยสารประจำทางอัจฉริยะ และป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ จำนวน 1,170 ป้าย รวมถึงลงทุนปรับปรุงศาลาตามแนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ “Smart Bus Shelter” ปรับปรุงดูแลและรักษาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำ จำนวน 691 หลัง โดยมีระยะเวลาของสัญญา 10 ปี ส่งผลให้บริษัทมี Media capacity เพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่า Media capacity ในปัจจุบันอยู่ราประมาณ 6,200 – 6,500 ล้านบาท
โดยการลงทุนดังกล่าวเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้บริษัทในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2563 (ก.ค. – ธ.ค. 63) ประมาณ 90 ล้านบาท และจะมีการรับรู้เข้ามาได้อย่างเต็มปีในปี 2564 เป็นต้นไป เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ โครงการ Smart Bus Shelter เป็นอีกช่องทางสื่อโฆษณาที่ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี และเป็นที่น่าสนใจสำคัญผู้ที่พบเห็น ทำให้ในช่วงก่อนหน้านี้ Bus Shelter มีอัตราการใช้พื้นที่สื่อสูงถึงมากกว่า 70% ต่อปี ซึ่งหากอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทคาดว่าจะมีการใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 60%
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thunhoon.com