ทันหุ้น –สู้โควิด –บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง VGI ว่าประเมินผลประกอบการ 1QFY21E (Apr – Jun 2020) ขาดทุนสุทธิที่ -128 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิใน 1QFY20ที่ 304 ล้านบาท และ 4QFY20 ที่ 364 ล้านบาท ผลประกอบการที่ลดลงมาก YoY ส่งผลจาก
1) รายได้รวมที่ -57% YoY จากรายได้ OOH media ที่ปรับตัวลดลง -68% YoY มาจากการลดลงของรายได้ในทุกสื่อ, Utilization rate อยู่ที่ 23% โดยรายได้จาก transit media ปรับตัวลดลงมากถึง -66% YoY และ office & other media ปรับตัวลดลง -46% YoY ด้านรายได้ digital services revenues ทรงตัว YoY แม้ VGI Digital lab ดี แต่ offset ด้วย offline transaction ในช่วง work from home ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารลดลง
2) gross profit margin ปรับตัวลดลงเป็น 11.3% จาก 54.1% ใน 1QFY20 จาก utilization rate ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีการลดค่าเช่าตึกและค่า maintenance ต่างๆ
3) SG&A to total sales เพิ่มขึ้นเป็น 51.7% ตามรายได้ที่ลดลง
4) equity income ปรับตัวลดลง แม้ส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการ work from home แต่ยังคงได้รับจากผลกระทบของการปิดน่านฟ้าของไทยและมาเลเซียทำให้สื่อในสนามบินปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งสื่อ OOH ในมาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ถึงช่วงกลาง พ.ค.
สำหรับผลประกอบการที่ลดลง QoQ ส่งผลจาก COVID-19 ที่ระบาดรุนแรงขึ้นใน 1QFY21 ทำให้ผู้บริโภค work from home มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการลดการใช้เม็ดเงินโฆษณาใน OOH media ลง และใน 4QFY20 มีกำไรพิเศษจาก gain on change in status of MACO
ปรับประมาณการกำไรปกติ FY2021E และ FY 2022E ลง -71% และ -21% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 ที่มากกว่าคาด ทำให้เม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะ BTS related media แม้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะเริ่มฟื้นตัว แต่เรามองว่าการฟื้นตัวของรายได้โฆษณาจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยตั้งแต่ 2QFY21 (Jul 2020 – Sep 2020) และจะเห็นการเติบโตในอัตราเร่งตัว HoH ในช่วง 2HFY21E (Oct 2020 – Mar 2021) ทั้งนี้ เราได้ปรับรายได้รวม, gross profit margin และ equity income ลง
ประเมินกำไรปกติ FY2021E ที่ 218 ล้านบาท (-85% YoY) บนสมมติฐาน 1) รายได้รวมอยู่ที่ 2,678 ล้านบาท (-33% YoY) โดยรายได้สื่อ OOH จากผลกระทบของ COVID-19 ในช่วง 1QFY21E และการประกาศใช้พรก. ฉุกเฉิน, 2) Gross profit margin ที่ปรับตัวลดลงเป็น 37.8% จาก 51.3% ใน FY2020 ส่งผลจาก Utilization rate ที่ลดลง และ 3) equity income ปรับตัวลดลง -44% YoY แม้จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก Kerry ได้ประโยชน์จาก new normal โดยเฉพาะช่วง COVID-19ระบาด แต่ได้รับผลกระทบจากส่วนแบ่งกำไรจาก MACO และสื่อต่างประเทศและสื่อสนามบินที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แม้เรามองว่า FY2021E ไม่ใช่ปีที่ดีของ VGI จากผลกระทบของ COVID-19 แต่เราเชื่อมั่นว่า VGI จะกลับมาเติบโตก้าวกระโดดใน FY2022E โดยเราประเมินกำไรปกติ FY2022E ที่ 920 ล้านบาท (+323% YoY) จาก 1) รายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น +35% YoY จากรายได้ OOH media (+43% YoY) จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหนุนเม็ดเงินโฆษณาขยายตัว โดยผู้ประกอบการ FMCG กลับมาใช้งบโฆษณามากขึ้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และรายได้จาก digital services +25% YoY, 2) gross profit margin ขยายตัวอยู่ที่ 47.4% และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry ทีเพิ่มขึ้น +32% YoY
เราปรับราคาเป้าหมาย FY2021E ลงเป็น 8.00 บาท (เดิม 8.80 บาท) อิง SOTP แบ่งเป็นมูลค่าจากธุรกิจ VGI = 6.0 บาท (อิง DCF), มูลค่าจากการลงทุนใน PLANB = 0.60 บาท (อิง ราคาเป้าหมาย PLANB = 7.00 บาท) และมูลค่าเงินลงทุนใน KERRY 1.35 บาท (อิง PER 37x) อย่างไรก็ตาม แม้ FY2021E ไม่ใช่ปีที่ดีของ VGI จากผลกระทบของ COVID-19 แต่เราเชื่อมั่นว่าผลประกอบการ VGI จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นอีกครั้งในปี FY2022E (+324% YoY) จากความเป็นผู้นำสื่อ Transit media และการ Synergy กับ PLANB นอกจากนี้ เรายังมองว่า VGI ยังมี upside จาก Kerry โดย COVID-19 New normal หนุน e-Commerce ขยายตัวดีต่อเนื่อง Key risks: เม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวกว่าคาด, COVID-19 ระบาดยาวนานกว่าคาด
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thunhoon.com