เม็ดเงินโฆษณา ก.ย. ลดลง 10% มูลค่า 9,249 ล้านบาท ภาพรวม 9 เดือนยังติดลบ 15% ยานยนต์ใช้เงินลดลงสูงสุด ขณะที่ กลุ่มยา สินค้าครัวเรือน ใช้เงินโฆษณาเพิ่ม
เอจีบี นีลเส็น ประเทศไทย เปิดเผยว่า มูลค่า เม็ดเงินโฆษณา ก.ย. 2563 ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 9,249 ล้านบาท หดตัว 10% เมื่อเทียบจาก 10,330 หมื่นล้านบาท ในเดือนกันยายน 2562 ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ขณะที่ภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณา 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2563) พบว่า เติบโตลดลง 16% มีมูลค่าอยู่ที่ 76,591 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับ 9 เดือนของปี 2562 อยู่ที่ 90,695 หมื่นล้านบาท
เมื่อแยกเป็นรายสื่อ ในเดือนกันยายน 2563 เทียบเดือนกันยายน 2562 พบว่า ทุกสื่ออยู่ในภาวะหดตัว โดยสื่อในห้างหรือ อินสโตร์ เม็ดเงินโฆษณาลดลงถึง 38% ตามด้วย สื่อวิทยุ ลดลง 29% สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อกลางแจ้ง หดตัวเท่ากันที่ 23%
ขณะที่ สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่ ลดลง 17% ขณะที่ สื่อโทรทัศน์ ลดลง 7% และสื่ออินเทอร์เน็ต ลดลง 4%
นอกจากนี้ ยังพบว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมหลักใช้เม็ดเงินโฆษณาลดลงจากปีที่แล้ว โดย 4 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 12,104 ล้านบาท ลดลง 10% รองลงมาคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 10,741 ล้านบาท ลดลง 3% กลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 9,054 ล้านบาท ลดลง 7% และ กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 4,591 ล้านบาท ลดลงถึง 34%
อย่างไรก็ตาม พบว่า ยังมีกลุ่มสินค้า ที่ใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อ เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มยา (Pharmaceuticals) มูลค่า 4,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และ กลุ่มสินค้าครัวเรือนในบ้าน (Household products) มูลค่า 3,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
ในส่วนของบริษัท ที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด ของเดือนมกราคมถึงกันยายนปี 2563 โดย 3 ลำดับแรก ได้แก่
- บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ไทย) โฮลดิ้งส์ จำกัด มูลค่า 3,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 35%
- บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด มูลค่า 1,966 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 38%
- บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 1,596 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 19%
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thebangkokinsight.com