งบโฆษณาปี 2563 หดตัว 14% เทียบปีก่อนหน้า นีลเส็นเผย เฉพาะเดือนธันวาคม ธุรกิจใช้เม็ดเงินผ่านสื่อลดลง 5% ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ความงาม ใช้เงินเพิ่ม
รายงาน มูลค่าเม็ดเงินโฆษณา หรือ งบโฆษณาปี 2563 พบว่า หดตัวลง 14% หรือมีเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทั้งปี อยู่ที่ 106,255 ล้านบาท จากปี 2562 อยู่ที่ 123,663 ล้านบาท
เมื่อดูในรายละเอียดแต่ละสื่อ พบว่า สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ หดตัวมากที่สุดถึง 51% โดยได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการล็อกดาวน์ และการปิดสถานบริการ เพื่อป้องกันโควิด-19
ตามด้วย สื่อในห้าง หดตัว 35% สื่อสิ่งพิมพ์ -32% สื่อวิทยุ -24% สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่ -18% สื่อโทรทัศน์ -10% ส่วนสื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตทรงตัว
สำหรับการใช้งบโฆษณาในเดือนธันวาคม 2563 เทียบเดือนธันวาคม 2562 พบว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา ยังคงติดลบที่ 5% โดยมีเม็ดเงินอยู่ที่ 10,240 ล้านบาท ลดลงจาก 10,742 ล้านบาท
แต่สิ่งที่แตกต่างจากภาพรวมทั้งปีคือ มีการเติบโตของสื่อโทรทัศน์ ที่เติบโต 5% และสื่อในโรงภาพยนตร์ ที่กลับมาเติบโต 8%
ในส่วนของการใช้งบโฆษณาตามรายกลุ่มสินค้า พบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล หรือ เพอร์ซันนอลแคร์ และเครื่องสำอาง ใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อในปี 2563 มูลค่า 15,310 ล้านบาท เพิ่ม 6% สวนทางกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ลดลงถ้วนหน้า เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่า 16,843 ล้านบาท ลดลง 8%, กลุ่มสื่อและการตลาด มูลค่า 12,438 ล้านบาท ลดลง 7% และกลุ่มยานยนต์ มูลค่า 6,467 ล้านบาท ลดลง 33%
ด้านบริษัทที่ใช้เ้ม็ดเงินโฆษณาสูงสุด ในปี 2563 โดย 3 ลําดับแรก ได้แก่ บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ไทย) โฮลดิ้งส์ จำกัดมูลค่า 5,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 46% ตามด้วย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด มูลค่า 2,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% และบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) มูลค่า 2,416 ล้านบาท ลดลง 4%
ด้านนายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด เปิดเผยว่า จากการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ที่เห็นสัญญาณชัดตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา จนถึงเวลานี้ มองว่าเม็ดเงินโฆษณาหายไปเพียง 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน
ภาพรวมที่เกิดขึ้น ยังไม่มีนัยสำคัญเท่ากับช่วงเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน ที่จะถึงนี้ว่าจะออกมาในทิศทางใด เพราะถือเป็นช่วงไฮซีซันของการใช้งบโฆษณา ขณะที่ทิศทางอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในปี 2564 ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการระบาดรอบใหม่เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ MI ได้คาดการณ์สถานการณ์ของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในไทยปีนี้ไว้ 3 ระดับ คือ
1. เกิดการระบาดรอบใหม่ในวงจำกัดช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่สามารถควบคุมได้ จะทำให้ปี 2564 นี้ เม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาเติบโตได้อย่างน้อย 10%
2. เกิดการระบาดรอบใหม่ในวงกว้าง ช่วงเดือนธันวาคม ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้บางพื้นที่ เม็ดเงินโฆษณายังพอเติบโตได้ราว 5%
3. เกิดการระบาดรอบใหม่ในวงกว้าง ช่วงเดือนธันวาคม โดยยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในหลายพื้นที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ (รายวัน) เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มตื่นตระหนกและไม่มั่นใจในสถานการณ์ เม็ดเงินโฆษณามีโอกาสทรงตัวหรือต่ำกว่าปีก่อน
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : thebangkokinsight.com