นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เผยว่า กรุงเทพมหานครร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สนับสนุนพื้นที่บนป้ายจราจรอัจฉริยะและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เผยแพร่ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร จำนวน 70 จุด ครอบคลุม 50 เขต วันละ 3 เวลา ดังนี้ ช่วงเช้า เวลา 06.00-08.00 น. ช่วงเที่ยง เวลา 11.00-13.00 น และช่วงเย็น เวลา 17.00-19.00 น. ข้อมูลจะหมุนเวียนสลับกันทุก ๆ 15 วินาที ตลอด 2 ชั่วโมง
การสนับสนุนพื้นที่บนป้ายจราจรอัจฉริยะในความรับผิดชอบของ สตช. มีจำนวนทั้งสิ้น 90 ป้ายในพื้นที่ 20 เขตชั้นในของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ คลองเตย จตุจักร ดินแดง ดุสิต บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางกะปิ บางพลัด บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน ป้อมปราบศัตรูพ่าย พญาไท พระโขนง ภาษีเจริญ ราชเทวี วังทองหลาง วัฒนา สาทร และห้วยขวาง
ช่วงระยะเวลา 1-2 ปี ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครประสบปัญหาฝุ่นละอองที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งส่งผลต่อสภาพอากาศ ทำให้มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งช่วงเช้าหากเกิดสภาวะลมอ่อนหรือลมสงบ หรือเกิดการผกผันกลับของอุณหภูมิ (inversion) นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวมีฝนน้อย ทำให้ระดับฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครสูงขึ้นบางครั้งอาจถึงระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
กรุงเทพมหานครจึงจำเป็นต้องแจ้งเตือนและเน้นย้ำข้อควรปฏิบัติในการเฝ้าระวังสุขภาพและป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ผ่านกลไกและช่องทางการสื่อสารต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล วางแผนการทำงานในแต่ละวัน โดยเฉพาะในพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งควรลดระยะเวลาหรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ด้วยทุกครั้ง
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : js100.com