Contact us on +668 4668 1993 or aspasign2020@gmail.com

งบโฆษณา ม.ค.ออกตัวติดลบ 7% อาหารเครื่องดื่มฟื้นใช้เงิน ยานยนต์ ท่องเที่ยวยังซึม!

งบโฆษณา ม.ค.ออกตัวติดลบ 7% อาหารเครื่องดื่มฟื้นใช้เงิน ยานยนต์ ท่องเที่ยวยังซึม!
February 21, 2021 dhammarong

ผ่านพ้น 1 เดือนแรก ด้วยตัวเลขที่ไม่สวยนัก สำหรับอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เมื่อ “นีลเส็น” เผยข้อมูลเม็ดเงินสะพัดในเดือนมกราคม 2564 อยู่ที่ 8,032 ล้านบาท ติดลบ 7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนเหตุผลเป็นสิ่งที่ประเมินกันได้และเอเยนซี่ต่างๆ ได้คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าการกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ย่อมทำให้แบรนด์สินค้าและบริการ บรรดานักการตลาดต้องคำนวณความคุ้มค่าในการลงทุน หากสุ่มเสียงตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทางเลือกในการต้อง “แตะเบรก” เทงบโฆษณาผ่านสื่อต่างๆจึงเกิดขึ้น 

นอกจากนี้ หากเทียบเดือนมกราคมปีนี้กับปีก่อน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็น “ตัวแปร” สำคัญ เพราะเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้วยังไม่มีไวรัสร้ายมาคุกคามธุรกิจนั่นเอง ฐานเม็ดเงินโฆษณาจึงแตกต่างกัน เปรียบแอปเปิ้ลกับแอบเปิ้ลย่อมไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม ผลพวงของปัจจัยลบพิษสงที่เกิดต่อธุรกิจแตกต่างกัน เมื่อแยกประเภทสื่อที่โกยเงินโฆษณาเดือนมกราคม พบว่า ทีวี ทั้งทีวีดจิทัล เคเบิ้ลทีวี และทีวีดาวเทียม เงินสะพัดอยู่ที่ 4,827 ล้านบาท เติบโต 1% หากชำแหละ ทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีจะอยู่ที่ 90 ล้านบาท ติดลบ 45% ส่วนอินเตอร์เน็ต 1,583 ล้านบาท ทรงตัว , สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ 768 ล้านบาท ติดลบ 22% สื่อในโรงภาพยนตร์ 329 ล้านบาท ติดลบ 38% สื่อสิ่งพิมพ์ 266 ล้านบาท ติดลบ 16% วิทยุ 216 ล้านบาท ติดลบ 31% สื่อในห้าง 43 ล้านบาท ติดลบ 16%

สิ่งที่น่าสนใจคือ “ทีวี” ยังครองเม็ดเงินโฆษณาสัดส่วนสูงสุดที่ 61% ซึ่งเป็นอัตราที่คงที่จากปีก่อน ถือเป็นสัญญาณที่ดีเมื่อเทียบหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วง “ขาลง” เพราะโดนเทคโนโลยี ดิสรัปชั่น แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆมาแย่งสายตาผู้ชม(Eyeball) และชั่วโมงชีวิตของผู้บริโภคไปจำนวนมาก กระทั่งมีการคาดคะเนว่าสัดส่วนจะลดต่ำลงกว่า 50% ในอนาคต แต่การที่ผู้บริโภคอยู่บ้าน ทำงานจากที่บ้านมากขึ้น อาจส่งผลให้ยืดอายุของจอแก้วสามารถครองเม็ดเงินมากสุดได้อีกเปลาะหนึ่ง

นอกจากนี้ นีลเส็น ยังรายงานอุตสาหกรรมที่ใช้จ่ายเงินโฆษณาในเดือนมกราคม 2564 หลักๆ ยังเป็น อาหารและเครื่องดื่มเงินสะพัดมูลค่า 1,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% กลุ่มการตลาด(Media & Marketing)ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการขายตรงมูลค่า 1,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลและเครื่องสำอางมูลค่า 1,020 ล้านบาท ลดลง 12% และกลุ่มยานยนต์ มูลค่า 520 ล้านบาท ลดลง 27%

ทั้งนี้ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ไม่เพียงกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง เพราะต้องเตรียมตัวรับการแข่งขันช่วงซัมเมอร์ในการแย่งชิงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและยอดขาย ซึ่งเทียบปลายปีที่แล้วอยู่ในอาการ “รัดเข็มขัด” ตัวเลขติดลบราว 10% อีกกลุ่มที่ใช้เงินโฆษณาโตตีคู่อาหารและเครื่องดื่มคือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ที่โตสูงสุดคือหมวดเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ใช้จ่ายเงินโฆษณา 77 ล้านบาท เติบโต 77% ส่วนที่ติดลบรุนแรง ยังเป็นอุตสาหรรมท่องเที่ยว 80 ล้านบาท ติดลบ 82% รวมถึงธุรกิจบันเทิง การเกษตร ติดลบ 45% เท่ากัน

สำหรับบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมกราคมปีนี้ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท ยูนิลีเวอร์(ไทยโฮลดิ้งส์ จำกัด มูลค่า 349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดคือ บรีสเอกเซล รักษ์โลก สูตรใหม่เป็นมิตรต่อโลก ทางสื่อทีวีมูลค่า 41 ล้านบาท รองลงมาคือใหม่ เคลียร์ คลีน แอนด์ มายด์ โฆษณาทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมา ริษัท เนสท์เล่ (ไทยจำกัด มูลค่า 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 150% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด คือ เนสกาแฟ ลุ้นอภิมหาโชค ทางสื่อทีวีมูลค่า 46 ล้านบาท รองลงมาคือ เอส26 เชื่อว่าทุกการเรียนรู้ยิ่งใหญ่เสมอ ทางสื่อทีวีมูลค่า 39 ล้านบาท และบริษัท พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทยจำกัดหรือพีแอนด์จี มูลค่า 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดคือ รีจอยส์ ผมนุ่มสลวย กลิ่นหอมยาวนานทางสื่อทีวีมูลค่า 22 ล้านบาท รองลงมาคือ ใหม่ ดาวน์นี่ หอมสดชื่นยาวนาน ทางสื่อทีวีมูลค่า 21 ล้านบาท 

ส่วนบริษัทอื่นๆ เช่น โมโน ทราเวล ใช้จ่ายเงินโฆษณากว่า 196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ใช้กว่า 66 ล้านบาท แมส มาร์เก็ตติ้งหรือผู้ผลิตและทำตลาดยาสีฟันเทพไทยโอเคเฮอร์เบิล กว่า 155 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ใช้เงินกว่า 40 ล้านบาท และไลฟ์สตาร์ในเครืออาร์เอส ใช้เงินกว่า 127 ล้านบาท ลดลงงจากปีก่อนที่ใช้กว่า 216 ล้านบาท

ตัวเลขการใช้จ่ายเหล่านี้เป็นสัญญาณให้ธุรกิจสื่อจับทางแบรนด์ ลูกค้าที่เป็นสินค้าและบริการต่างๆในหมวดไหนเป็น “โอกาส” ที่จะโตร่วมกัน ส่วนหมวดที่ยังเปราะบางและชะลอใช้จ่าย อาจต้องพับแผนกระตุ้นให้ซื้อสื่อไปก่อน โฟกัสค่ายที่แข็งแรงย่อมช่วยให้ธุรกิจรอดได้

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : bangkokbiznews.com