ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งมักจะเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง เป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่อยู่ในสภาพเก่าชำรุดไม่มั่นคงแข็งแรงหรือก่อสร้างโดยฝ่าฝืนกฎหมาย มีความเสี่ยงต่อการโค่นล้มทับที่อยู่อาศัย ทำให้ทรัพย์สินประชาชนเสียหายหรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีมาตรการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยกำชับให้ทุกจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้แจ้งเตือนประชาชนสอดส่องดูแลอาคารบ้านเรือนให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงและระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อนและดำเนินการสอดส่องดูแลตรวจสอบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดทำคู่มือปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยพายุฤดูร้อนและพายุหมุนเขตร้อน เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันความเสียหายเมื่อเกิดเหตุการณ์จากพายุดังกล่าว ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ กรมโยธาธิการและผังเมือง (www.dpt.go.th) สำหรับกรณีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุ ฤดูร้อน ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดำเนินการตามมาตรการรายละเอียดดังนี้
๑. ในการพิจารณาอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงให้ตรวจสอบและพิจารณาให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัด และต้องมีวิศวกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรเป็นผู้คำนวณและรับรองความมั่นคงแข็งแรง ในกรณีที่ป้ายมีความสูงจากระดับฐานตั้งแต่ ๑๐ เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ ๕๐ ตารางเมตรขึ้นไป นอกจากมีวิศวกรเป็นผู้คำนวณและรับรองความมั่นคงแข็งแรงแล้ว ยังต้องมีการตรวจสอบงานออกแบบและคำนวณส่วนต่างๆ ของโครงสร้างป้ายโดยวิศวกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับวุฒิวิศวกรสาขาวิศวกรรมโยธาด้วย
๒. ป้ายที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด
๓. ป้ายที่ได้รับอนุญาตแต่มีสภาพเก่าชำรุดบกพร่องอันอาจไม่ปลอดภัยต้องดำเนินการตรวจสอบและมีคำสั่งให้เจ้าของป้ายดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่แก้ไขให้พิจารณาสั่งรื้อถอนป้ายนั้นต่อไป
๔. ป้ายที่ติดตั้งบนพื้นดินที่มีความสูง ๑๕ เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ ๕๐ ตารางเมตรขึ้นไปป้ายที่ติดตั้งบนหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ ๒๕ ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาคารที่ต้องตรวจสอบตามกฎหมาย หากป้ายลักษณะดังกล่าวข้างต้นได้ก่อสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี ให้แจ้งเจ้าของป้ายดำเนินการจัดหาผู้ตรวจสอบที่ขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการควบคุมอาคารมาทำการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและระบบอุปกรณ์ต่างๆ แล้วให้เจ้าของป้ายส่งรายงานผลการตรวจสอบให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นพิจารณาออกใบรับรองการตรวจสอบ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา ๖๕ ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๓๒ ทวิ ยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ฝ่าฝืนด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : posttoday.com